ล่องเรือข้ามทะเล


จากผู้หญิงน่าทึ่งสองคนที่ไม่เคยจำได้...
ความกล้าหาญของการเล่าเรื่องราวที่ประสบพบเจอ เสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจ ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง การต่อต้านฟาสซิสต์พลัดถิ่นฐาน คนชายขอบผู้มั่นใจสู่การเดินทางไปปากีสถานและความตายของชีวิตที่ก้าวเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว 

ความผิดพลาดเพียงน้อยนิดสามารถทำให้มนุษย์คนหนึ่งหมดสิ้นลมหายใจ
แต่เป็นความแปลกแยกที่กีดกันเรายามมีชีวิตอยู่

เรามีชีวิตอยู่ด้วยความกล้า ความกลัว ความหลงมัวเมา ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
ฉันเริ่มตั้งคำถามกับตัวจริง ๆ ก็ในตอนนั้น

ขณะที่นั่งเฝ้าดูอยู่ในฐานะผู้ชมยุคหลัง เราได้สร้างเรื่องราวของเราขึ้นบ้างรึยังหนอ? เมื่อเฝ้ามองดูเรื่องราวของผู้อื่นจนมากเกินพอ เราก็หันกลับมามองหาเรื่องราวของเราเอง

ไม่นี่นา...เราไม่มีเรื่องราวของเราเอง ตลอดระยะเวลาที่เราชื่นชมความงามอย่างภาคภูมิ เราไม่เคยสร้างเรื่องราวใด ๆ ขึ้นมาเลย มันมิใช่ความเศร้าอย่างที่เคยเป็น แต่เป็นแรงกระเพื่อมที่ต่างออกไป ปราศจากความเคร่งเครียด หวาดกลัวแต่เกิดคำถาม 


เรื่องราวแบบไหนกันที่เราจะเป็นผู้เขียน?

นึกไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าต้องเป็นเรื่องราวแบบไหน แต่พบว่าช่วงชีวิตหลายปีให้หลังมานี้ เราพูดคุยกับตัวเองน้อยลงเหลือเกิน เราฟังเสียงเพลง เสียงพูดของตัวละคร ภาพร่างและเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้น ขณะเดียวกันสิ่งที่กำลังเลือนหายไปกลับคือตัวเรา

จนถึงตอนนี้เราคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สาบสูญโดยสมบูรณ์ มิใช่เพราะหายไปจากผู้คนแต่เพราะหายไปจากตัวเอง

อืม เหมือนกับว่าต้องเริ่มทำอะไรสักที สิ่งที่ปรารถนาอย่างไม่ดันทุรัง แต่ก่อนจะไปถึงขั้นทำอะไรนั้น คงต้องรู้ก่อนว่าความปรารถนาของเราคืออะไร ให้เริ่มกลับมาเรียนรู้จักตัวเองใหม่ คงน่าแปลกใจถ้าจะบอกให้ตัวเองโยนความฝันทิ้งไปซะ ซึ่งคงหมายถึงความเพ้อเจ้อเสียมากกว่าเพื่อที่จะได้ค้นพบสิ่งที่จะสามารถเรียกได้ว่า "พร้อมจะอุทิศทั้งชีวิตให้"

ก็ไอ้สักแต่ว่าจะเดินทางไปหาเป้าหมาย แต่ไม่รู้จะเดินไปเป้าไหนมันก็ค่อนข้างตลกนะ เหมือนหลับตาคลำทางในความมืด คว้าอะไรได้ก็คว้า เป็นตัวตลกที่จับดะไปหมด พอหายร้อนก็คลายทิ้ง

ถ้าจับดะไปแล้วพยายามอย่างถึงที่สุดด้วยก็คงดี แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลยทั้งหนทางหรือว่าความพยายาม อย่างนั้นก็จะเสียเวลาเดินกันอีกนานโดยไม่ได้อะไรเลย


...ในช่วงเวลาเดียวกันภาพของหญิงสาวคนที่สามบนเรือข้ามทะเลก็ปรากฎขึ้น ยามเมื่อเธอกระโดดจากเรือโคลงเคลงลงสู่น้ำทะเลสุดสายตาเพื่อไขว่คว้าลังไม้ของชีวิต เราคงเห็น ณ ภาพนั้นแล้วว่า...เธอมีชีวิตอีกก้าวที่เราไม่มี

ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง ไปด้วยทางเลือกของเธอ ไปด้วยความสามารถของเธอ ไปด้วยลมหายใจทั้งหมดในชีวิตของเธอ

...ฉันอยู่ที่ไหน...

หากเราไม่มีสิ่งที่อยู่ในลังไม้นั่น เราคงไม่รู้ว่าตัวของเรากำลังเดินทางไปไหนและทำอะไร เมื่อเราโดดลงทะเลตามลังไม้นั่นไป เราก็คงไม่รู้ว่าเรากำลังไขว้คว้าสิ่งใดอย่างล่องลอย

เราไม่ใช่ผู้พยายามเพื่อความว่างเปล่า แต่เรานั้นต่างพยายามเพื่อหนทางของตัวเอง ความปรารถนาเบื้องลึกที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในใจ แต่คำถามคือ "หนทางของเราคืออะไร"

ไม่อยากมีแล้วชีวิตที่สมบูรณ์ แต่อยากมีชีวิตเพื่อทำความปรารถนาให้สมบูรณ์ ถูกเติมเต็มด้วยการเติมเต็ม มิใช่เติมเต็มโดยไม่เพิ่มสิ่งใดเลย


...ในจิตใจที่พัดหมุนดุจดังพายุของความไร้เดียงสา 
ลอยลมเชยไปเชยมา ที่แห่งหนใดหนาที่ข้าจะลอยไป 
อยากจะวางทุกอย่างลงที่ถือไว้ เพื่อเลือกคว้าใดสิ่งเดียวให้มั่น 
ตัวตนนี้ถูกสร้างจากมันและมันถูกสร้างจากตัวตนเดียวกันเช่นนี้
หากอยู่บนเรือลำนั้น ฉับพลันต้องโดดลงน้ำ
คำถามเดียว...

ในวันที่คลื่นลมแรง สิ่งใดที่เราจะว่ายไปเพื่อคว้ากลับคืนมา?


แด่ปัจจุบัน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น