ชุดทักซิโด



ที่โรงแรมน่ะมีแขกมากมาย เราทั้งหมดล้วนเป็นแขกสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้จักเราเลยก็ตาม


ก่อนพบคนตัดไม้ ฉันจำได้ว่าฉันตัดสินใจไปเข้าร่วมคอร์สอาบน้ำร้อนของทางโรงแรม เรื่องประหลาดเรื่องแรกก็คือฉันไปคนเดียว ที่มันประหลาดนั่นก็เพราะตามปกติแล้วนั้น ฉันไม่ใช่คนกล้าหาญถึงขนาดจะมั่นใจเดินออกไปเข้ากลุ่มร่วมสังคมตัวคนเดียวแบบนั้นโดยไม่คิดอะไรมาก หรือบางทีมันอาจเป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจสวมทักซิโด้ไปแช่น้ำร้อน นั่นก็เป็นอีกเรื่องประหลาดที่ฉันไม่เข้าใจ


ฉันจำได้ว่า ฉันมีทางเลือกที่จะนำเสนอตัวเองได้อย่างอิสระ ฉันถึงเลือกภาพจำนั้นให้กับคนอื่นเห็น แม้มันจะเป็นการที่ฉันทำตัวแปลกจากคนอื่นด้วยการสวมทักซิโด้ไปแช่บ่อน้ำร้อนก็ตาม


มันอาจเป็นตอนที่ฉันอยู่ในห้องแต่งตัวและฉันตัดสินใจที่จะไม่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ทุกคนสวมชุดว่ายน้ำ แต่ฉันไม่อยากสวมมัน ในเสี้ยวหนึ่งของความคิดเหมือนฉันไม่อยากเปิดเนื้อหนังมังสาส่วนอื่นใดใต้ร่มผ้าให้คนอื่นเห็น


พอไม่ต้องเปลี่ยนชุด ฉันก็ไปถึงที่บ่อน้ำร้อนก่อนคนอื่น แน่นอนว่ามันยังไม่มีใคร และเงียบเชียบในตอนกลางวัน ฉันตกหลุมรักความรู้สึกนั้นทันที แต่ก็เข้าใจว่าในไม่ช้าผู้คนจะแห่กันมา โดยเฉพาะหลังงานเลี้ยงของโรงแรมเลิก ดังนั้นฉันต้องเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีอยู่ให้มากที่สุด ฉันจึงเลือกลงบ่อเล็ก เพราะคิดว่าผู้คนไม่น่าจะแห่กันมาที่บ่อนี้ และแน่นอนผู้ดูแลคอร์สกิจกรรมที่บ่อน้ำร้อนบ่อเล็กเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และมีพลังชีวิต


แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับการตัดสินใจไหม


ด้วยเหตุบางอย่างในที่สุดฉันก็ช้าพอ ๆ กับคนที่เปลี่ยนชุด เป็นไปตามคาดที่คนส่วนใหญ่เลือกลงคอร์สบ่อใหญ่ แต่มีคนลงคอร์สบ่อเล็กมากเกินกว่าที่คิดไว้ ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังได้ลงชื่อเป็นคนสุดท้าย โดยไม่ยอมสละสิทธิ์ไปสำรวจที่บ่อใหญ่ก่อน


หนแรกที่ฉันโผล่ไปผู้คนซึ่งรวมกลุ่มกันอยู่แล้วให้ความสนใจกับชุดที่ฉันใส่มา ในตอนนั้นฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่าฉันตัดสินใจผิดพลาด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมั่นใจมากว่าจะลงแช่น้ำร้อนในชุดทักซิโดให้ได้ และฉันจะดูมีระดับกว่าทุกคนที่เหลือเพียงเพราะเสื้อผ้าที่ใส่


คงเป็นตอนนั้นเองที่ฉันคิดว่าผู้หญิงที่ดูแลกิจกรรมมีเสน่ห์ เพราะเธอไม่ว่าอะไร และออกจะให้ความสนอกสนใจฉันมากเป็นพิเศษ จนขอให้ทุกคนที่เหลือปฏิบัติกับฉันไม่ต่างจากคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่าในใจเธออาจกำลังหัวเราะชอบใจอยู่ก็เป็นได้ที่ฉันดูเหมือนตัวตลกขนาดนั้น ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้สึกว่ามันคงเป็นการหัวเราะชอบใจที่ค่อนข้างจะจริงใจ


ฉันคิดว่าแค่ถกขากางเกงขึ้น ชุดก็จะยังไม่เปียก เพราะฉันอยากเดินเข้าไปแช่ขาที่อีกฝังของสระโดยที่ยังเปียกแค่ขา ไม่ใช่ทั้งชุด แม้คนอื่น ๆ จะลงแช่ไปทั้งตัวแล้วก็ตาม แต่ก็ยังกังวลว่าบ่อนั้นจะลึกเกินกว่าขาของฉัน และสุดท้ายจะต้องเปียกทั้งตัว


ฉันเลยเดินเลาะไปตามขอบบ่อตรงที่มั่นใจว่ามันยังตื้นพอจะยืนได้ แล้วฉันก็ได้นั่งลงตรงที่ฉันอยากนั่ง แต่ก็ไม่ค่อยสะดวกสบายนักเพราะต้องแบ่งที่กับผู้นำกิจกรรมหญิงที่ดูมีเสน่ห์คนนั้น


เธอยิ้ม แล้วเริ่มทำกิจกรรม


ฉันนั่งมองดูพวกคนที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนทำกิจกรรมตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก ขณะที่ฉันเข้าร่วมด้วยการมองเพียงเท่านั้น หนหนึ่งเธอเดินเข้ามาบอกกับฉันว่า "รอก่อนนะ"


ฉันไม่ได้สนใจอะไร และไม่รู้ว่ารอทำไม แต่เมื่อไม่ได้เร่งร้อนมีนัดที่ไหน ฉันก็แค่นั่งอยู่ที่ขอบบ่อตรงนั้น คิดว่าจะนั่งไปเรื่อย ๆ พอกิจกรรมจบ เดี๋ยวคงได้เห็นเอง


พอผู้หญิงคนนั้นออกไปฉันก็เริ่มขยับ ได้นั่งเข้าที่เข้าทางสักที แต่เหมือนจะไม่มีอะไรที่เป็นใจสักอย่าง เพราะแบงก์และเหรียญในกระเป๋าต่างตกออกมาข้างนอกและหล่นลงในน้ำ


การเก็บแบงก์คืนมานั้นไม่ยาก แต่เหรียญกลับกระจัดกระจายจนฉันต้องตัดสินใจว่าจะทิ้งมันดีไหม เพราะฉันจะต้องเปียกไปทั้งตัวถ้าเก็บเหรียญ ฉันเอื้อมมือลงไปหยิบมันที่ก้นบ่อ ตรงที่ยังตื้นอยู่ก็ครึ่งแขน ตรงที่ลึกหน่อยหย่อนขาไปก็เสียขา สุดท้ายฉันเลยตัดสินใจทิ้งมันไว้อย่างนั้น แล้วออกมาจากบ่อ


มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นทุกอย่างที่ฉันทำ เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ค่อนข้างอ้วน ดูท่าทีเหมือนคนเป็นมิตรแค่ครึ่งเดียว ฉันไม่ชอบที่ถูกเขาจ้องมองเวลาพยายามก้มเก็บเหรียญ แบบนั้นฉันจึงเลิกแล้วเดินหนีออกมา แค่เดินไปเรียกพนักงานแล้วใช้ให้เขาเก็บแทน


แต่พอกลับไปถึงพร้อมพนักงาน ผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นก็ช่วยเก็บเหรียญให้ฉันจนครบสองมือแล้ว เขาว่า "คุณทำของตก"


ฉันตรงเข้าไปรับเหรียญจากเขาโดยไม่สนอีกแล้วว่ากางเกงจะเปียกหรือไม่ แค่เดินผ่านลุยน้ำไป ยืนสองมือออกไปรับเหรียญมาจากเขา เราถึงได้เริ่มคุยกัน แล้วถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร


นั่นเป็นตอนที่คนตัดไม้เริ่มเข้ามา ในตรงที่นั่งอยู่นั้น มีเส้นทางลัดน้ำไปในที่แปลก ๆ ที่ไม่น่ามีอยู่ที่บ่อน้ำร้อน มันเป็นสไลด์เดอร์ลับ ที่ลงไปสู่พงไม้ซึ่งถูกตกแต่งไว้ ฉันหลงเข้าไปในนั้น เหมือนถ้ำแล้วก็ออกสู่ภายนอก น่าประหลาดที่ฉันสามารถก้าวเดินจากตรงที่จุดสุดท้ายปีนออกไปบนถนนนอกโรงแรมได้ โดยที่ฉันไม่สนใจกฎเกณฑ์อะไร หรือว่าอยู่ที่ไหน ราวกับถูกเรียกให้ไปโผล่ที่นั่น


เมื่อโผล่ออกไปในที่สาธารณะอย่างนั้นฉันก็ถูกเจอตัว หลังตั้งใจจะซ่อนตัวจากงานเลี้ยงและผู้คนไปแช่น้ำร้อน ฉันถูกตามกลับไปตามนัดเดิมที่ฉันนัดไว้ระหว่างงานเลี้ยง ซึ่งสร้างความน่าเบื่อหน่ายได้เป็นอย่างดี แต่ไม่มีข้อแม้ให้ปฏิเสธอีกแล้ว


ฉันต้องไป รีบ ๆ ทำให้มันจบ จะได้กลับมาแช่น้ำต่อและไม่มีใครทันเห็นว่าฉันหายตัวไปจากบ่อน้ำร้อนในตอนนี้


ฉันเดินไปขึ้นรถโบราณสีครีมของฉัน เขาว่างั้น มันเป็นของฉัน ฉันออกไปข้างนอก คนขับรถพาฉันไปที่ไหนสักที่ คงจะเป็นโรงงานไข่ หรือไม่ก็โรงงานปลา เพราะกลิ่นของมันทั้งคาวและไม่น่าดม แต่จนแล้วจนรอดมันก็เหมือนฉันมาเสียเที่ยว หลังรออยู่นานฉันจึงตัดสินใจเลิกนัดทั้งหมดแล้วจะกลับไปที่บ่อน้ำร้อน


ที่ทางกลับนั้นไม่ราบรื่นเท่าไหร่ อาจเพราะฉันใจร้อน อยากกลับไปให้ทัน


ถนนนั้นมีสองเลน ข้างหน้าฉันถูกขวางด้วยรถบรรทุกขนไม้ที่วิ่งด้วยความเร็วไม่เกินกำหนด แต่ไม่ทันใจฉัน นั่นแหละรถของคนตัดไม้


ฉันจำได้ว่าฉันพยายามแซงไปอยู่หลายหน แต่ก็มีรถสวนทางมาเสมอ มันค่อนข้างเสี่ยงที่ทำแบบนั้นบนถนนแคบ ๆ แล้ววิสัยทัศน์ย่ำแย่ หนหนึ่งที่ฉันยังคงพยายามแซงอยู่ ก็มีรถวิ่งสวนมาและมันแย่หน่อย ที่ข้างหลังฉันก็ติดรถอีกคัน


วินาทีนั้นฉันตัดสินใจเปิดประตู แล้วจะโดดหนีออกไปก่อนที่รถจะชน แต่ทันทีที่เปิดประตูออก รถบรรทุกไม้ก็ชอบประตูของฉันจบหลุด


ใช่ เขาชน เพราะในความเร่งที่ยังคงเท่าเดิม รถบรรทุกนั้นชะลอความเร็วลง ประตูถูกฉีกไปต่อหน้าต่อตาฉัน หัวใจของฉันตกลงไปจนถึงตาตุ่ม วินาทีนั้น ฉันคิดว่า ฉันไม่น่าเก็บเหรียญพวกนั้นขึ้นมาเลย เพราะเหมือนมันจะน้ำพาความไม่ได้ดั่งใจมาให้


ขณะที่รถกำลังชะลอลงนั้น คนตัดไม้ก็โผล่ขึ้นที่ด้านหลังรถบรรทุก ยืนอยู่เหนือกองไม้ แล้วลากฉันออกไปจากรถทำกำลังใช้การไม่ได้


เขาเป็นพวกอารมณ์ดีเกินกว่าที่คาดไว้ เขาไปส่งฉันที่บ่อน้ำร้อน ตรงทางเดิมกับที่ฉันปีนออกมา เรื่องทั้งหมดมันไร้สาระสิ้นดี พอฉันกลับมาถึงบ่อน้ำร้อน มันก็ไม่เหลือใครแล้ว


ฉันเกลียดโรงงานไข่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ได้นั่งแช่ขาในบ่อที่เงียบสงบและไม่มีใคร พอเริ่มรู้สึกสบาย ฉันก็เลยลงไปแช่ทั้งตัว แน่นอน ทั้งชุดทักซิโด้ แม้จะใส่เสื้อผ้าอยู่อย่างนั้น แต่มันก็รู้สึกสบายมาก ๆ ผ่อนคลายเหมือนอย่างที่คาดหวังไว้ในทีแรก


แล้วผู้หญิงที่นำกิจกรรมคนนั้นก็โผล่มา "ฉันรอคุณอยู่ หาทั่วเลย"


เธอเดินเข้ามาแถวขอบบ่ใกล้ ๆ ที่ฉันนอนแช่น้ำอยู่ เธอนั่งย่องลงข้าง ๆ หย่อนเท้าลงมาบ้างขณะที่เราคุยกัน คุยกันหลายเรื่อง ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันหนักหนา หลัก ๆ แล้วคงวนอยู่กับ น้ำร้อน ชุดสีครีม อาหารธรรมดา ๆ แต่ฉันกลับรู้สึกสบายใจ เหมือนเธอซ่อนฉันออกจากทุกคน ทุกสิ่งได้ เหมือนกับฉันล่องหนไป ตอนกำลังคุยกับเธอ การแช่น้ำครั้งนี้คงให้อะไรมากกว่าที่ฉันคิดจริง ๆ หลังจบบทสนทนา ฉันขอตามไปกับเธอ เพราะเมื่อเดินอยู่กับเธอ ฉันเหมือนถูกซ่อนจากผู้คน


ฉันไม่ต้องคิด หรือสนใจอะไรรอบข้าง นอกเสียจากมองหน้าผู้หญิงผมแดงช่างเจรจาและมีชีวิตชีวาคนนี้ ขณะที่เราเดินไปเรื่อย ๆ และพูดคุยกัน นี่รึเปล่า เธอถึงบอกให้ฉันรอ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น